วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

น้ำผึ้ง… แก้ท้องเสีย

ข้อมูล จากประเทศอิตาลี ซึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องไอศกรีมโฮมเมด กล่าวว่า การกินไอศกรีมนั้นดีกว่า ไปกินมื้อเที่ยงเป็นไหนๆ เพราะย่อยง่าย และทำให้สดชื่นพร้อมลุยงานต่อในช่วงบ่าย ดังนั้น ถ้าใครอยากลดความอ้วนละก็ แนะนำให้กินไอศกรีมผลไม้ แทนมื้อเที่ยงสักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
ข้อดีอีกอย่าง คือ ไอศกรีมเชอร์เบตดับกระหายได้ดีกว่าน้ำ ในหน้าร้อนเพราะมีน้ำซึ่งจับตัวเป็นน้ำแข็งอยู่ร้อยละ 65-70 แถมมีแคลอรี่น้อยกว่าน้ำอัดลมด้วย
ไอศกรีมนั้นเปรียบได้กับดนตรี เพราะสถาบันจิตวิทยาในลอนดอนกล่าวว่า ไอศกรีมช่วยลดความเครียดได้ประหนึ่งดนตรี ที่ช่วยลดอุณหภูมิและทำให้เคลิบเคลิ้ม
รู้อย่างนี้แล้ว ก็กินไอศกรีมโดยไม่ต้องกลัวอ้วนอีกต่อไปแล้ว
- See more at: http://eat.edtguide.com/552_%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A-#sthash.eaP7vXjd.dpuf
เกร็ดน่ารู้คู่บ้าน น้ำผึ้ง… แก้ท้องเสีย
บอกเพื่อนด้วย Link:
หมวด: ความรู้ทั่วไป, ความรู้รอบตัว, รู้ไว้ใช่ว่า, บทความ, บทความดีๆ, เคล็ดลับ, เรื่องน่ารู้, เกร็ดความรู้, แม่บ้าน
จิบน้ำผึ้งสด ประมาณ 2-3 โต๊ะ สักพักอาการท้องเสียก็จะหาย

การ ที่น้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการรักษาโรคท้องเสียนั้น ก็เพราะโรคท้องเสียเกิด จากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่เข้าไปแพร่กระจายในกระเพาะอาหารของมนุษย์ แต่เมื่อกินน้ำผึ้งเข้าไป ความเข้มข้นของน้ำผึ้ง จะไปดึงน้ำออกจากตัวแบคทีเรียและทำให้แบคทีเรียตาย

..เก็บมาฝาก… หากมีบาดแผลเกิดขึ้น ถ้าล้างบาดแผลให้สะอาดแล้วใช้น้ำผึ้งทาที่บาดแผล น้ำผึ้งจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำให้แผลไม่เกิดอาการอักเสบ

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เค้ก

Cake มีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวไวกิ้ง (Old Norse word) ว่า "kaka"
ประวัติ เริ่มจากปี 1843 คุณอัลเฟรดเบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) นักเคมีชาวอังกฤษ ได้ค้นพบ "ผงฟู" หรือ "baking powder" ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ให้กับภรรยาของเขาคือ อลิซาเบธ (Elizabeth) ได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากภรรยาของเขานั้น เป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับ ไข่ และ ยีสต์
เค้ก ทำมาจากแป้งสาลี น้ำตาล ไข่ นม เนย ผงฟู และน้ำ สมัยหนึ่งมีประเทศที่ผลิตข้าวสาลีเป็นอาหารหลัก เกิดภาวะ "ข้าวสาลี" ล้นตลาด ต้องการจะระบายข้าวสาลี จึงให้ทุนกับประเทศต่างๆ ให้ส่งคนไปเรียนวิธีการทำเค้ก (วัตถุดิบหลักคือแป้งสาลี) โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ผลที่ตามมาก็คือ พวกที่ไปเรียนเมื่อกลับมาประเทศของตัว ก็เป็นลูกค้าสั่งตู้อบเค้ก กับสั่งแป้งสาลีเข้ามาเพื่อทำเค้กและประเทศที่ว่านี้ ต่อมาก็ไม่เคย มีปัญหา ข้าวสาลีล้นตลาดอีกเลย
เค้ก เป็นขนมที่มีกระบวนการทำให้สุกโดยการอบ เป็นขนมที่นิยมบริโภคกันทุกกลุ่มชนเค้กมีหลายประเภทและมีคุณสมบัติต่าง ๆ กัน ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของส่วนผสมคือแป้งสาลี ผงฟู เกลือ ไขมัน น้ำตาล ไข่ นม และกลิ่นรส โดยต้องมีองค์ประกอบเป็นตัวเค้กให้มีความสมดุลย์ต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของเค้กที่จะทำ
ประโยชน์ของเค้กเค้ก เป็นขนมอบที่มีลักษณะ รูปร่าง ตามความต้องการของผู้ผลิต แต่มีส่วนประกอบของแป้งสาลี น้ำตาล ไข่ นม ไขมัน และสิ่งปรุงแต่งให้เกิดชนิดของเค้ก เช่น ผลไม้ต่าง ๆ ดังนั้นเค้กจึงเป็นขนมที่ให้ประโยชน์กับผู้บริโภค โดยได้รับสารอาหาร คือ แป้ง น้ำตาล ให้สารอาหาร คาร์โบไฮเดรท ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย ไข่ นม ให้สารอาหาร โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สร้างเซลล์เนื้อเยื่อให้กับร่างกาย เนย ไขมัน ให้สารอาหารไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการหล่อลื่นและทำให้ผิวพรรณสดชื่น นอกจากนั้นเด็กยังสามารถนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น วันมงคลสมรส วันเกิด ปีใหม่ และสามารถจัดรับประทานเป็นอาหาร น้ำชา กาแฟด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เปลือกผักผลไม้มีประโยชน์

ใครที่ชินกับการกินผักผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกให้ เกลี้ยงบ้าง อย่าง แตงกวา มันฝรั่ง มะนาว มะกรูด เป็นต้น ทราบหรือไม่ว่า เปลือกที่ปอกทิ้งไปนั้นก็มีประโยชน์เหมือนกัน วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน…
 
        เปลือกแอปเปิ้ล เชือว่ามีผลในการต่อต้านมะเร็ง ตามที่นักวิจัยพบว่าเปลือกของแอ๊ปเปิ้ลแดงผลหนึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เทียบเท่าวิตามินซี 820 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ได้จากน้ำส้มคั้นถึง 2 ควอตช์ เลยทีเดียว 
 
        เปลือกมันฝรั่ง อุดมไปด้วยใยอาหาร (fiber) ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม และวิตามินบี มากกว่าที่ได้จากเนื้อมันเสียอีก เมื่อเทียบปริมาณเท่า ๆ กันแล้ว 
 
        ผิวส้ม มะนาว หรือมะกรูด มีสาร ดี-ไลโมนีน (น้ำมันหอมระเหยชนิดหนึ่ง) เทอปีน เฮสเพอริดีน (ยาป้องกันการตกเลือดโดยลดความเปราะของเส้นเลือด) คูมาริน (สารต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย) และแคโรทีนอยด์ (สารสีเหลืองช่วยต้านอนุมูลอิสระ) ซึ่งดีต่อสุขภาพ 
 
       รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองหันมาทานผักผลไม้พร้อมทั้งเปลือกดู แต่ก่อนทานก็อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน
 

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อาหารออร์แกนิก

สำหรับวันนี้ทางเราก็มีเกร็ดความรู้ดีๆ ในเรื่องของอาหารออร์แกนิกมาฝากเพื่อนๆ กันครับ และหลายต่อหลายคนก็อาจจะสงสัยกันว่ามันคืออะไร ซึ่งอาหารออร์แกนิกก็จะมีประโยชน์ต่อตัวคุณเอง นั่นก็คือ อาหารออร์แกนิก ซึ่งก็จะดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วยนะค่ะ และขอบอกว่าอาหารออร์แกนิก ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อผิวนั้นดีกันอย่างไร และนอกจากนั้นเรามาไขข้อข้องใจว่า อาหารออร์แกนิกนั้นคืออะไร และดีต่อสุขภาพผิวพรรณได้ด้วย
อาหารออร์แกนิก คือ
ซึ่งในสถาบันวิจัย และการพัฒนาจุยส์ บิวตี้ ออร์แกนิก สกินแคร์ ที่มีชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ได้มีการอธิบายว่า ออร์แกนิกก็จะเป็นการเกษตรแบบอินทรีย์ นั่นก็เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาของสารเคมีสะสมในธรรมชาติและนอกจากนั้นเป็น อันตรายต่อชีวิต และยังมีกระบวนการผลิตจึงต้องใส่ใจตั้งแต่การปรับคุณภาพของดิน และน้ำ เป็นต้น และที่สำคัญปัจจัยพื้นฐานสำคัญในขั้นตอนในการผลิตและรวมไปถึงวัตถุดิบรวมถึง การควบคุมในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ที่ป้องกันไม่ให้มีการเจือปนของสารเคมี อย่างเช่น การปลูกพืชตามฤดูกาล หรือจะเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทางการเกษตร และสารพิษทุกชนิด เป็นต้น นอกจากนี้ยังรักษาความสมบูรณ์ของดินโดยไม่ใช้สารเคมีจึงทำให้ร่างกายได้รับ ประโยชน์ตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ สถาบันวิจัย และสถาบันในการพัฒนาจุยส์ บิวตี้ ก็ยังสามารถที่จะพบว่า น้ำผลไม้ออร์แกนิกได้ให้คุณค่าวิตามินและ ยังให้แร่ธาตุได้มากกว่าผลไม้ธรรมดาถึง 50% ซึ่งโดยเฉพาะคุณค่าต่อผิวพรรณ จึงได้มีการนำส่วนผสมของน้ำผลไม้ออร์แกนิ กเข้มข้น 98% เพื่อนำมาผลิตเป็นสกินแคร์บำรุงผิวต่างๆ อย่างเช่น เจลทำความสะอาด เซรั่ม ครีม และโลชั่นบำรุงผิว เป็นต้น

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของวิตามินอี

วิตามินอี เป็น สารอีกหนึ่งชนิดที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งวิตามินอีนั้นสามารถหาทานได้จาก เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ทั่วไป หรือจะกินในรูปแบบของอาหารเสริม และเพื่อนๆรู้กันบ้างหรือเปล่า ว่าวิตามินอีนั้นมีประโยชน์กับร่างกายของเราในด้านใดบ้าง วันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ของวิตามินอีให้เพื่อนๆได้รู้จัก แต่ไม่เพียงประโยชน์เท่านั้น เราจะมาบอกถึงข้อควรระวังในการวิตามินอีด้วย ว่าควรระวังในการกินวิตามินดีอย่างไรให้ปลอดภัย …..
ประโยชน์ของวิตามินอี
-ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น จึงทำให้ไม่ค่อยเหลือเก็บสะสมมาก
-วิตามินอีมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเซลล์ประสาท
-ช่วยในการสร้างเลือด ขยายเส้นเลือด ทำให้เลือดเดินได้ดี ทั้งยังลดการจับตัวเป็นลิ่มเลือดด้วย จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและที่หัวใจ
-เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก จึงช่วยให้การต่อต้านริ้วรอยแห่งความชราได้ดี
-ช่วยในการบำรุงการทำงานของตับ
-วิตามินอีจะช่วยในการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และยังป้องกันการเป็นหมันได้
-ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ทำให้หายใจได้สะดวก
ข้อควรระวังในการกินวิตามินอี
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับวิตามินอี คือ วิตามินอีไม่สามารถละลายในน้ำได้ แต่จะละลายในไขมัน ร่างกายจึงไม่สามารถขับวิตามินอีออกจากร่างกายได้ทางปัสสาวะเหมือนกับ วิตามินอื่นๆ โดยร่างกายจะขับวิตามินอีส่วนเกินบางส่วนออกมาทางอุจจาระ ดังนั้นหากรับประทานวิตามินอีมากเกินไปจะสะสมในร่างกาย จะเกิดผลเสียคือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ไปจนถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงแนะนำว่าไม่ควรรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอีมากเกินกว่า 1,500 IU ต่อวันค๊าบ

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชาใบหม่อน

ในปัจจุบันนี้ ชา ก็นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากชนิดหนึ่ง และก็จัดว่าเป็นเครื่องดื่มสารพัดประโยชน์ นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากใบชานั่นเอง และที่มีกันมาอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบันนั่นก็จะเห็นได้ว่าต้องเป็น ชาเขียว แต่ก็ยังมีเครื่องดื่มประเภทชาที่สามารถสกัดมาจากพืชชนิดอื่นอีกหลายชนิดเลย ทีเดียว อย่างเช่น ชาใบหม่อน นั่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และช่วยในการบำรุงสุขภาพทั้ง สิ้น และในที่นี้ทางเราจึงมีเกร็ดความรู้ดีดีมาฝาก เกี่ยวกับเครื่องดื่มประเภทชาชนิด ชาใบหม่อนนี้ มาให้ทราบกันพอสังเขป และมาดูกันเลยค่ะว่าชาใบหม่อนที่เราเคยได้ยินกันจะมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง…
ชาใบหม่อน
ว่าด้วยเรื่องของชา นั่นก็คือสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันเห็นได้ว่านั่นก็คือ ชาใบหม่อน และชาใบหม่อนที่เรานิยมนำมาใช้ในการชงรับประทาน โดยการนำเอาใบหม่อนที่อบแห้งแล้วมาใส่ลงในแก้ว และจากนั้นก็เทน้ำร้อนเติมใส่ลงไป ภายในเวลาแปบเดียวหรือรอสักครู่สารที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ได้และมี ประโยชน์จากใบหม่อนก็จะละลายออกมา จากนั้นก็รอสักครู่จึงกรองเอาแต่น้ำนำมาและสามารถดื่มได้เลย ในเรื่องของ ชาใบหม่อนที่มีสีเขียวปนสีเหลือง จะมีรสฝาดเล็กน้อย และมีสรรพคุณช่วยในการแก้ไข้หรือลดไข้นั้น นอกจากนั้นยังทำให้สดชื่นได้อีกเช่นเดียวกันค๊าบ

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

8 วิธี ที่ทำให้ดื่มน้ำง่ายขึ้น

1. ดื่มน้ำให้เหมือนเป็นกิจวัตร พยายามดื่มน้ำทุกเช้า หลังตื่นนอนให้เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะการดื่มน้ำตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากดื่มน้ำมากไปตลอดทั้ง วัน ทั้งยังช่วยเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย
2. บีบน้ำมะนาวใส่นิด ๆ หากคุณรู้สึกแปลก ๆ กับรสชาติที่จืดชืดของน้ำเปล่า ขอแนะนำให้คุณหามะนาวมาบีบลงไปในน้ำเปล่าซักเล็กน้อยก่อนดื่ม เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำ
3. ทำให้มันใสอยู่เสมอ หมั่น ตรวจดูปัสสาวะของคุณหลังเสร็จธุระ เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังใสอยู่เสมอ เพราะความใสนั้นเหมือนเป็นดัชนีวัดว่า ร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่เมื่อไรก็ตามที่ปัสสาวะของคุณมีสีเหลืองเข้ม นั่นหมายความว่าร่างกายของคุณกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ
4. ถ้าร้อนนัก ก็ดื่มซะ เมื่อคุณกำลังอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล ขอแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่น เพราะบางครั้งการเลือกเครื่องดื่มก็เป็นเรื่องของจิตวิทยา การที่คุณได้ถือเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้วไว้ที่มือ อาจช่วยให้คุณลดอารมณ์เดือดดาลลงได้มากกว่าเครื่องดื่มปกติ ยิ่งกว่านั้น ในกาแฟและน้ำชายังมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มอัตราการกำจัดน้ำออกจากร่างกายของคุณ ในรูปของปัสสาวะ
5. ดื่มน้ำเมื่อคุณถูกความตะกละจู่โจม บาง ครั้งความรู้สึกหิวของคนเราก็เป็นความกระหายแบบหลอก ๆ หรือแค่รู้สึกตะกละเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถแก้อาการนี้ได้ด้วยการหาน้ำดื่มซัก 1- 2 แก้ว เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้กินอะไรรองท้อง
6. เริ่มปฏิบัติจากขั้นตอนง่าย ๆ อย่าคาดหวังว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำได้ จากหน้ามือเป็นหลังมือ คือจากคนที่ไม่ดื่มน้ำเลยมาดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่คุณควรเริ่มจากการดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าของวัน ตามด้วยการดื่มน้ำอีก 1 แก้วก่อนนอนจนเป็นนิสัย จากนั้นค่อยๆเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้น
7. ถูก และ ถูก อย่าลืมว่า น้ำดื่มตามภัตตาคารนั้นมีให้บริการฟรี แบบไม่อั้น
8. หมั่นหาแก้วน้ำที่มีน้ำเต็มแก้ว 1 ใบมาวางไว้ข้างตัวคุณเสมอ ขณะคุณกำลังทำงาน เพราะมันจะทำให้คุณสะดวกต่อการหยิบขึ้นมาจิบไปเรื่อยๆ ขณะทำงานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเวลาที่คุณต้องสุมหัวคิดงานกับเพื่อน ๆ หรือเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาหากคุณไม่ต้องการให้มือของคุณอยู่ว่าง อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีนะค๊าบ